วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

Fc' โรงเรียนบ้านทุ่งใหญ่ ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี



ข่าวสาร

ประกาศ!!! โดยอาจารย์พิฑูรย์ฝากมาบอกว่า ทั้งศิษย์เก่าศิษย์ใหม่และผู้ใหญ่ใจดี ขอเชิญร่วมออกเงินสร้างโรงยิมสนามบาส วอลเลย์ ออกคนละเล็กคนละน้อยก็ยังดี นะครับ



ถ้าใครสนใจร่วมบริจาคให้โรงเรียน สามารถติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/Fc' โรงเรียนบ้านทุ่งใหญ่



ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียน

 ประวัติโรงเรียน

               โรงเรียนปรากฏหลักฐานจากผู้ที่เชื่อถือได้ว่า  ได้เปิดทำการสอนก่อนตั้งพระราชบัญญัติประถมศึกษา เมื่อ พ.ศ. ใดไม่ปรากฏ  โดยอาศัยวัดเปิดเป็นที่ทำการเรียนการสอน  จัดครูสอนกันเองไม่มีเงินเดือน  ราษฎรเก็บเงินกันเองมีค่าจ้าง  ต่อมารัฐบาลได้ตรา พรบ. ประถมศึกษา โรงเรียนได้มีฐานะเป็นโรงเรียนสาขาของโรงเรียนบ้านไทย พ.ศ. ๒๔๖๘  นายสิงห์  สายเมฆ เป็นครูใหญ่  นายนิล  ทองสง่า เป็นหัวหน้า ต่อมาทางราชการเห็นว่าโรงเรียนไปมาไม่สะดวกเพราะระยะทางห่างไกล จึงให้โอนเป็นสาขาโรงเรียนบ้านโพนทอง   นายจินดา  บุญโปร่ง เป็นครูใหญ่  นายปลิว  แก่นสารเป็นหัวหน้า พ.ศ.  ๒๔๗๘  ทางราชการได้ตั้งโรงเรียนต่างๆเป็นอิสระได้ตั้งนายปลิว  แก่นสารเป็นครูใหญ่  ๑๒ กันยายน ๒๔๗๘  นายปลิว แก่นสารถึงแก่กรรม  ทางราชการได้แต่งตั้งนายมุย  ผ่องแผ้วเป็นครูใหญ่
                ๑๘ เมษายน  ๒๔๘๗ นายมุย  ผ่องแผ้ว ย้ายไปเป็นครูใหญ่ที่ ร.ร. ประชาตำบลก่อเอ้  และย้าย  นายทวน    นาสารีย์ มาเป็นครูใหญ่ และในปีนี้ครูใหญ่และครูพร้อมด้วยเจ้าอาวาส ผู้ใหญ่บ้านได้ติดต่อขอที่ดินเพื่อปลูกสร้างโรงเรียน จึงได้ปรับพื้นที่ล้อมรั้ว พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุเคลื่อนที่ไม่ได้ไว้เป็นหลักฐาน
                พ.ศ. ๒๔๙๑ ครูใหญ่ ครู เจ้าอาวาส ผู้ใหญ่บ้าน ราษฎรได้พร้อมใจกันปลูกสร้างอาคารขึ้นในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่เดือนเมษายน - กรกฎาคม  จึงได้ย้ายจากวัดมาเรียนที่โรงเรียนปลูกสร้างใหม่  เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑  ต่อมานายสงัด  พันธ์เพ็ง ศึกษาธิการอำเภอ นายสวัสดิ์ อุทธสิงห์  นายเหรียญ  ฤทธิบุญ ผู้ตรวจการประถมศึกษา  พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้าน  ได้มาทำพิธีรับมอบที่ดินหนองน้ำทางด้านทิศตะวันตกของโรงเรียน เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ที่ราษฎรมอบให้โดยไม่คิดมูลค่า
                วันที่ ๑ – ๓ เมษายน  ๒๔๙๕ คณะสงฆ์และชาวบ้านได้จัดงานฌาปณกิจศพพระอธิการพรหม  ปุญเกสโล  เจ้าคณะตำบล ได้เงินทั้งสิ้น  ๘,๘๙๖.๘๐ บาท ใช้ในงานศพ ๔,๐๖๒.๓๐ บาท  เหลือ ๔,๘๓๔.๕๐ บาท ได้ตกลงกันมอบให้โรงเรียนเพื่อสร้างโรงเรียน ๒,๐๔๗.๐๐ บาท
                เดือนตุลาคม ๒๔๙๖  คณะครู ผู้ใหญ่บ้าน ราษฎร ได้ตกลงกันว่าควรหาเสาและต้นไม้มาเพื่อสร้างอาคารเอกเทศขึ้น  ทางโรงเรียนได้มอบให้นายดุสิต หมื่นกุล ครู และนายปาน นิยมญาติ ราษฎร เดินทางไปซื้อไม้ที่ จ.กาฬสินธุ์
                ๑๙ พฤศจิกายน ๒๔๙๖ ผู้เดินทางไปซื้อไม้ได้นำไม้ทั้งหมดมาถึงสถานที่ก่อสร้าง  เดือนธันวาคม  ๒๔๙๖  ได้เชิญนายแสง ฑีฆะสุข ครูใหญ่โรงเรียนบ้านกอกมาเป็นประธานในการปลูกสร้าง โดยยกเป็นโครงร้างไม้ไว้
                พ.ศ. ๒๔๙๙ ทางราชการได้ให้สังกะสีมุงหลังคา  แต่ยังขาดกระดานปูพื้น ฝา เพดาน หน้าต่าง  จึงได้ย้ายสถานที่จากโรงยาวมาเรียนที่อาคารนี้ไปพลางๆก่อน
                เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๐๐ ครูใหญ่ คณะครู กรรมการได้ปรึกษาหารือเพื่อระดมทุนในการก่อสร้าง เดือนกันยายน ๒๕๐๐ ทางราชการได้ย้ายนายทวน นาสารีย์  ไปเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนบ้านโพนทอง และได้แต่งตั้งนายเมย นาสารีย์  มาดำรงตำแหน่งแทนเมื่อ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๐๐ คณะครู ชาวบ้านได้ร่วมกันก่อสร้างอาคารจนแล้วเสร็จ  เมื่อ ๒ เมษายน  ๒๕๐๑  สิ้นค่าใช้จ่ายในการปลูกสร้าง ๔๓,๑๑๘.๗๕ บาท
                ๑๕ มกราคม ๒๕๐๗  ทางราชการได้ย้ายนายเมย นาสารีย์  ไปเป็นครูใหญ่โรงเรียนบ้านโพนทอง และย้ายนายสมบูรณ์  แก่นสาร มาเป็นครูใหญ่แทน เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้น ป.๑ – ๔ ต่อมา ๖ มิถุนายน  ๒๕๐๗  ทางราชการได้ปรับเปลี่ยนสถานภาพของโรงเรียนเป็นโรงเรียนปรับปรุงนอกโครงการ เปิดทำการสอนสัปดาห์ละ ๕ วัน
                จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๓๗  ได้เปิดสอนเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา  จนถึงปัจจุบัน

วิสัยทัศน์
โรงเรียนบ้านทุ่งใหญ่และชุมชน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา  มีทักษะที่ดี  มีคุณธรรมนำความรู้  มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก  ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย  อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  อันเป็นพื้นฐานการประกอบอาชีพและการศึกษาต่อ  โรงเรียน  ครูและบุคลากร ร่วมกับชุมชนมีเครือข่ายการพัฒนา  มีระบบบริหารจัดการที่ดีมีประสิทธิภาพ

1. พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดีมีคุณธรรม
2. พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานของหลักสูตร
3. พัฒนาผู้เรียนให้สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีได้
4. ส่งเสริมผู้เรียนให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี
5. ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและหลักเศรษฐกิจพอเพียง
6. สถานศึกษาจัดการศึกษาโดยใช้ชุมชนมีส่วนร่วม

อัตตาลักษณ์/เอกลักษณ์
                                   -เป็นคนดี  มีความรู้  อยู่อย่างพอเพียง
                                           -ยิ้มง่าย ไหว้งาม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น